การติดเชื้อโควิด19 ก่อให้เกิดผลเสียต่อหลายระบบ โดยเกิดจากเชื้อโดยตรง (direct viral toxicity), endothelial damage and microvascular injury เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย (immune system dysregulation) กระตุ้นการก่อการอักเสบ (stimulation of a hyperinflammatory state) เกิดการอุดตันของหลอดเลือด (hypercoagulability with resultant in situ thrombosis and macrothrombosis) ผลต่อระบบ angiotensin-converting enzyme 2 (ACE2) pathway ซึ่งก่อให้เกิดอาการต่อผู้ติดเชื้อได้ต่างๆ ดังนี้
– อาการทางระบบทางเดินหายใจ (หวัด คัดจมูก จมูกไม่ได้กลิ่น เสียงเปลี่ยน ไอ เหนื่อย หรือ ระบบหายใจล้มเหลวจนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ)
– อาการทางหลอดเลือดอุดตัน เช่น ลิ่มเลืออุดตันที่สมอง ปอด หรือ ขา หรือ หลอดเลือดของอวัยวะภายในช่องท้อง
– ระบบเมตาบอลิก เช่น น้ำตาลในเลือดสูง แคลเซียมในเลือดต่ำ
อย่างไรก็ดี แม้ว่ารักษาการติดเชื้อโควิด19 หายแล้วก็ตาม ผู้ป่วยบางรายอาจพบผลกระทบตามมาอีกหลายประการ ได้นานถึง 3-6 เดือน หลังติดเชื้อ เช่น ผมร่วง อ่อนเพลีย (53%) กล้ามเนื้อลีบ ปวดตามข้อ (27.3%) วิตกกังวล นอนไม่หลับ (26%) ไอ เหนื่อย (43.4%) เจ็บหน้าอก (21.7%) ออกซิเจนในเลือดต่ำ ปอดเป็นพังผืด ลิ่มเลือดอุดตัน น้ำตาลในเลือดสูง เป็นต้น
อาการในด้านต่อมไร้ท่อหลังการติดเชื้อโควิด19 ได้แก่
- เบาหวาน เนื่องจาก พบว่า ผู้เป็นโควิด มีน้ำตาลในเลือดสูงร่วมด้วย ทั้งที่เป็นเบาหวานมาก่อน หรือไม่เคยได้รับการวินิจฉัยเบาหวานมาก่อนก็ตาม บางราย พบน้ำตาลสูงวิกฤติจนสารคีโตนคั่งมีเลือดป็นกรด กลไกการเกิดน้ำตาลสูง เชื่อว่า เกิดจากเชื้อไวรัสทำลายเบต้าเซลล์ของตับอ่อน ทำให้การสร้างอินซูลินผิดปกติไป ควบคู่ไปกับการเกิดภาวะดื้ออินซูลินที่เพิ่มขึ้น ควรประเมินโดยการเจาะวัดระดับน้ำตาลในเลือด น้ำตาลสะสม แอนติบอดี้ต่ออินซูลิน และ c-peptide เป็นต้น
- ไทรอยด์ มีรายงานการเกิดไทรอยด์อักเสบ Hashimoto’s thyroiditis และไทรอยด์เป็นพิษ Graves’ disease อาจเกิดจากการกระตุ้น thyroid autoimmunity
- ต่อมหมวกไต เนื่องจากช่วงที่รักษาการติดเชื้อโควิด อาจได้รับยาสเตียรอยด์เป็นเวลานาน ส่งผลต่อการทำงานของต่อมหมวกไตได้ หากมีปัญหา น้ำหนักลด อ่อนเพลีย รับประทานอาหารได้น้อย มีไข้ต่ำๆ อาจพิจารณา เช็ค การทำงานของต่อมหมวกไตด้วย
- กระดูกพรุน การติดเชื้อโควิด19 ส่งผลต่อการเกิดกระดูกพรุนมากขึ้น เนื่องจากการเกิดการเปลี่ยนแปลง bone demineralization การติดเชื้อทำให้ผู้ป่วยลดกิจกรรมในการดำเนินชีวิตประจำวัน (immobilization) การได้รับยารักษาโควิดที่เป็น corticosteroids การรับประทานอาหารน้อยลงหรือไม่ได้ออกกลางแจ้งโดนแดด (vitamin D insufficiency) ตลอดจนการขาดการรักาาโรคกระดูกพรุนเดิมที่เคยรักษา
ดังนั้น ผู้ป่วยที่หายจากโควิด ควรได้รับการดูแลต่อเนื่องจากสหสาขาวิชาชีพ ในการประเมินผลกระทบที่ตามมาในด้านต่างๆ เช่น ประเมินสมรรถภาพปอด การทำงานของหัวใจ ประเมินความเสี่ยงเบาหวาน หรือการทำงานของต่อมไร้ท่อ เป็นต้น
อ่านต่อ https://www.nature.com/articles/s41591-021-01283-z